วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

อยากบอกรัก

วันเวลาหมุนความเดียวดาย ผ่านใจดวงนี้ทุกวัน
ไม่มีใครข้างกัน อ้างว้างจนน่าสงสัย
ถูกถามเสมอว่าทำไมกัน ป่านนี้ไม่มีผู้ใด
หรือไม่มี รักในหัวใจ จะมอบให้ใครทั้งนั้น
เปิดใจตรงนี้เลยคำว่ารัก ฉันมีอยู่แทบล้นใจ
แต่ยังไม่มีที่ใช้ก็เท่านั้นเอง
อยากบอกรักกับใครสักคน อยากใช้หนึ่งคำคำนี้
พูดให้ใครฟังดี เป็นเธอจะได้หรือเปล่า
หากว่าเธอยินดีรับไป ใจฉันคงไม่เงียบเหงา
พร้อมจะบอก รักไปเบาเบา
แต่เธอเต็มใจให้ฉันใช้มันกับเธอ

เพราะชีวิตไม่ง่ายจะเจอ กับคนหนึ่งคนที่ใช่
ฉันเลยเก็บรักไว้ เพื่อเจอคนที่พอดี
แต่แล้วกี่หนพบคนดูเหมาะ ก็มีเจ้าของทุกที
หวังว่าเธอนั้นคงไม่มี ไม่หวังมากไปใช่ไหม
เปิดใจตรงนี้เลยคำว่า รักฉันมีอยู่แทบล้นใจ
แต่ยังไม่มีที่ใช้ก็เท่านั้นเอง
อยากบอกรักกับใครสักคน อยากใช้หนึ่งคำคำนี้
พูดให้ใครฟังดี เป็นเธอจะได้หรือเปล่า
หากว่าเธอยินดีรับไป ใจฉันคงไม่เงียบเหงา
พร้อมจะบอก รักไปเบาเบา
แต่เธอเต็มใจให้ฉันใช้มันกับเธอ

เปิดใจตรงนี้เลยคำว่ารัก ฉันมีอยู่แทบล้นใจ
แต่ยังไม่มีที่ใช้ก็เท่านั้นเอง
อยากบอกรักกับใครสักคน อยากใช้หนึ่งคำคำนี้
พูดให้ใครฟังดี เป็นเธอจะได้หรือเปล่า
หากว่าเธอยินดีรับไป ใจฉันคงไม่เงียบเหงา
พร้อมจะบอก รักไปเบาเบา
แต่เธอเต็มใจให้ฉันใช้มันกับเธอ
ถ้าเธอเต็มใจให้ฉันบอกรักเธอ…

เพลงพี่เบิร์ด

วันพุธที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

คน 3 คน

ณ วัดบ้านไร่แห่งหนึ่ง
หลวงตาเพิ่งกลับจากการบิณฑบาตเห็นลูกศิษย์วัดนั่งร้องไห้สะอึกสะอื้นจึงเข้าไปถามไถ่ว่าเป็นอะไร
ลูกศิษย์ตอบกลับมาว่า ‘ผมถูกใส่ร้าย ผมไม่ได้ขโมยเงินในหอพระ แต่ผมเข้าไปปัดกวาดเช็ดถูบ่อย ๆ ทุกคนก็หาว่าผมเป็นขโมย ไม่มีใครเชื่อผมเลย ฮือ ฮือ ‘
หลวงตานั่งลงข้าง ๆ พยักหน้าเข้าใจแล้วสอนลูกศิษย์ว่า
‘เจ้ารู้ไหม ในตัวเรามีคนอยู่สามคน คนแรกคือ คนที่เราอยากจะเป็น
คนที่สองคือ คนที่คนอื่นคิดว่าเราเป็น คนที่สามคือ ตัวเราที่เป็นเราจริง ๆ’
ลูกศิษย์หยุดร้องไห้ นิ่งฟังหลวงตา
‘คนเราล้วนมีความฝัน ความทะยานอยาก ตามประสาปุถุชนทั่วไป ไม่ใช่สิ่งเลวร้าย บางครั้งความฝันก็เป็นสิ่งสวยงาม เป็นพลังที่ทำให้เราก้าวเดิน เช่น บางคนอยากเป็นนักร้อง เป็นนักมวย เป็นดารา ถ้าถึงจุดหมายเราก็จะรู้สึกว่าโลกนี้ช่างสว่างไสวสวยงาม ดังนั้นเราควรมีความฝันไว้ประดับตน เพื่อเป็นเครื่องหล่อเลี้ยงหัวใจ ‘
มาถึงไอ้ตัวที่สอง จะเป็นเราแบบที่คนอื่นยัดเยียดให้เป็น บางครั้งก็ยัดเยียดว่าเราดีเลิศ จนเราอาย เพราะจิตสำนึกเรารู้ดีว่ามันไม่จริงหรอก แต่เราก็ยิ้มรับ แต่บางครั้งไอ้ตัวที่สองนี้ก็มหาอัปลักษณ์ จนไม่อยากจะนึกถึง ซ้ำร้ายยังเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เพราะมันเป็นโลกในมือคนอื่น มันเป็นสิ่งแปลกปลอมที่คนอื่นยื่นให้ ‘
อย่างคนขับสิบล้อจอดรถอยู่ข้างทางเฉย ๆ เช้ามาพบศพใต้ท้องรถ ก็ต้องขับรถหนี ทั้งที่ศพนั้น ถูกรถชนตายอีกฝั่งแล้วดันถลามาใต้ท้องรถ แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นคนขับสิบล้อ บางคนก็ตัดสินไปแล้วว่าเขาเป็นฆาตกร’
สมัยที่หลวงตายังไม่ได้บวชเคยไปส่งเพื่อนผู้หญิงที่มีผัวแล้ว เพราะเห็นว่าบ้านเป็นซอยเปลี่ยว ส่งได้สองครั้งก็เป็นเรื่อง ชาวบ้านซุบซิบนินทา หาว่าเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน คนที่เห็นนั้นมองคนอื่นด้วยใจที่หยาบช้า ไร้วิจารณญาณ ใจแคบ มองคนอื่นผ่านกระจกสีดำแห่งใจตัวเอง คนเหล่านี้มีอยู่ทั่วไปในสังคม เจ้าต้องจำไว้นะ ทุกครั้งที่เราว่าคนอื่นเลว คนอื่นไม่ดี ก็เท่ากับเราประจานความมืดดำในใจตัวเองออกมา เห็นสิ่งไม่ดีของใครจงเตือนตัวเองว่าอย่าทำ อย่าเลียนแบบ นั่นแหละวิถีของนักปราชญ์ ถ้าเอาไปว่าร้ายนินทาเรียกว่าวิถีของคนพาล ‘
แล้วเราต้องทำตัวอย่างไรละครับในเมื่อเราต้องเจอคนเหล่านั้นเรื่อย ๆ’ ลูกศิษย์หยุดร้องไห้แล้วเริ่มสนทนาโต้ตอบหลวงตา
เจ้าต้องทำความเข้าใจจิตใจมนุษย์ เรียนรู้ว่าความเข้าใจผิดเกิดขึ้นได้ เราห้ามใจใครไม่ได้ สิ่งใดที่เราไม่ได้ทำ ไม่ได้คิด ไม่ได้เป็น แต่คนอื่นคอยยัดเยียดให้เรา เราก็ไม่ควรให้ความสำคัญ เพราะเราสัมผัสได้ว่าสิ่งนั้นไม่มีอยู่จริง ใจเราควรสงบนิ่ง ยังไม่ต้องชำระ ใจคนอื่นต่างหากที่ควรซักฟอกให้ขาวสะอาดกว่าที่เป็นอยู่ เขาเหล่านั้นเป็นบุคคลที่น่าสงสารมีเวลามองคนอื่น แต่ไม่มีเวลามองตัวเอง จงแผ่เมตตาให้เขาไป เข้าใจใช่ไหม’
เข้าใจครับหลวงตา’ เด็กน้อยยิ้มมีความสุขอีกครั้ง

Credit : http://happyhappiness.monkiezgrove.com/

ส้ม 9 ผล


มีผู้ใจดีซื้อส้มชั้นดีคัดพิเศษ 9 ลูก ราคา 45 บาท 
แล้วจากนั้นก็แจกให้กับคนกลุ่มหนึ่ง ... ส้มผลแรก 
อยู่กับขอทาน ขอทานผู้นั้นแกะทานแค่ครึ่งหนึ่ง 
แล้วอีกครึ่งหนึ่งก็ ขว้างทิ้งไปอย่างไม่แยแส แล้วก็บ่นว่า 
" ทุเรศจัง ... ให้มาได้แค่ส้มผลเดียว " 
ส้มผลที่สอง 
อยู่กับลูกของผู้ใจดี ลูกของผู้ใจดีนั้นก็แกะทานทันที 
เมื่อทานหมดผลแล้ว ก็พูดว่า ... " ส้มนี้อร่อยดีนะ
ส้มผลที่สาม 
อยู่กับแม่ของผู้ใจดี แม่ของผู้ใจดีนี้ นำส้มที่ได้ไปคั้นเป็นน้ำส้ม 
แล้วแช่ตู้เย็นไว้ เมื่อกระหาย จึงนำมาดื่ม ... 
" แหมม..น้ำส้มนี้ชื่นใจดีจริง " 
ส้มผลที่สี่ 
อยู่กับร้านขายของชำ เจ้าของร้านขายของชำก็นำส้มผลนี้ 
ไปคั้นเป็นน้ำส้ม เหยาะเกลือนิด เติมน้ำตาลหน่อย ปรุงได้ที่แล้วก็นำไปใส่แก้ว แช่ไว้ในตู้แช่ 
เมื่อมีคนเดินผ่านมาเปิดตู้แช่ แล้วหยิบน้ำส้มแก้วนั้นมาทาน 
เมื่อทานเสร็จ ก็นำแก้วเปล่านั้นวางไว้ที่ตู้แช่ ... 
" เท่าไหร่ครับ " 
" 10 บาท ครับ " 
ส้มผลที่ห้า 
อยู่กับพ่อค้าน้ำผลไม้ พ่อค้าน้ำผลไม้ก็นำส้มผลนี้ ไปคั้นเป็นน้ำส้ม เหยาะเกลือนิด 
เติมน้ำตาลหน่อย ปรุงได้ที่แล้วก็นำไปใส่ขวดพลาสติก แช่ไว้ในตู้น้ำแข็งบนรถเข็น 
แล้วเดินเข็นจำหน่ายไปเรื่อยๆ 
มีคนหนึ่งเดินสวนมา เรียกให้หยุด เสร็จแล้วก็เปิดตู้น้ำแข็ง 
ก็ชี้เอาน้ำส้มขวดนั้น คนขายหยิบน้ำส้มขวดนั้น 
เปิดหยิบหลอดพลาสติกเสียบให้ หนึ่งหลอดแล้วส่งให้คนๆนั้น ... 
" เท่าไหร่ครับ " 
" 20 บาท ครับ " 
และคน ๆ นั้นก็ถือขวดพลาสติกบรรจุน้ำส้มนั้นเดินจากไป 
ส้มผลที่หก 
อยู่กับร้านอาหารแห่งหนึ่งบนห้างสรรพสินค้าชั้นนำย่านลาดพร้าว 
เจ้าของร้านอาหารแห่งนี้ก็นำส้มผลนี้ไปคั้นเป็นน้ำส้ม เหยาะเกลือนิด เติมน้ำตาลหน่อย 
ปรุงได้ที่แล้วก็นำไปใส่แก้วแล้วแช่ไว้ในตู้เย็น 
วันนั้นมีหนุ่มสาวคู่หนึ่งเดินเข้ามา 
เจ้าของร้านจึงเชื้อเชิญ และหาที่นั่งให้ 
ฝ่ายหญิง ... " น้ำส้มแก้วหนึ่ง ค่ะ " 
ฝ่ายชาย ... " กาแฟ ร้อน ครับ " 
เจ้าของร้านจึงนำน้ำส้มที่คั้นไว้นำมาใส่แก้วใบใหม่ 
แก้วใบนี้มีลักษณะทรงสูง รอบๆ แก้ว มีรูปหัวใจ ดวงเล็ก ๆ น่ารัก สีแดงติดอยู่ 
ภายในแก้วใบนั้นมีหลอดพลาสติกเสียบอยู่ ตรงปลายหลอดนั้นงอได้ 
แต่เจ้าของร้านไม่ได้มาเสริฟเอง แต่มีเด็กเสริฟใส่เสื้อเชิ๊ตสีขาว กระโปรงสีดำมาเสริฟ แทน 
เมื่อทานเสร็จ ... เช็คบิล ... น้ำส้มแก้วนี้ 50 บาท 
ส้มผลที่เจ็ด 
อยู่กับภัตตาคารแห่งหนึ่งแถวริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา 
ครั้งนี้ส้มผลนี้ถูกปรุงแต่งโดยบาร์เทนเดอร์มือหนึ่งของร้าน 
น้ำส้มคั้นที่ได้นั้นถูกปรุงแต่งและเก็บรักษาไว้ในตู้แช่อย่างดี 
และในวันนั้น มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้าภัตตาคารนั้นมา 
และมีความประสงค์ที่จะลงเรือล่องแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อชมทิวทัศน์ในยามค่ำคืนด้วย 
ฝ่ายหญิง ... " น้ำส้มคั้นแก้วหนึ่งค่ะ " 
และแล้วน้ำส้มคั้นแก้วที่วางอยู่ตรงหน้าหญิงสาวผู้นั้น 
ถูกเสริฟโดย บริกรในชุดประจำร้านที่เป็นเอกลักษณ์ของร้านนั้น 
แก้วที่ใช้เป็นทรงสูงมีก้านสำหรับจับ หลอดเป็นหลอดพลาสติกใสตรงปลายหลอดงอได้ 
สิ่งที่โดดเด่นนั้นอยู่ตรงที่บริเวณขอบปากแก้วนั้น มีส้มที่ถูกฝานเป็นวงกลมเสียบอยู่ เมื่อเรือจะเข้าเทียบฝั่ง 
... สิ่งที่ปรากฎในบิลนั้น ... 100 บาท เป็นราคาของน้ำส้มแก้วนี้ 
ส้มผลที่แปด 
อยู่กับคลับเฮาซ์สุดหรูย่านปทุมธานี 
และเช่นเดียวกันส้มผลนี้ไว้ถูกทำเป็นน้ำส้มคั้นเหมือนกัน ถูกปรุงแต่งโดยบาร์เทนเดอร์มือหนึ่ง 
น้ำส้มคั้นที่ได้นั้นถูกปรุงแต่ง และเก็บรักษาไว้ในตู้แช่อย่างดีเช่นเดียวกัน 
ในค่ำคืนนั้นมีงานราตรีของกลุ่มสาวไฮโซกลุ่มหนึ่ง 
และหนึ่งในนั้นก็สั่ง ... " น้ำส้มคั้นหนึ่ง " 
... น้ำส้มคั้นแก้วนี้ถูกเสริฟโดยบริกรหนุ่มหน้าตาคมสันคนหนึ่ง 
มาในชุดทักซิโดที่ตัดด้วยผ้ามูนอย่างดี 
สิ่งที่อยู่บนฝ่ามือของบริกรหนุ่มคนนั้นคือ ถาดสีเงิน บนถาดนั้นมีแก้วน้ำส้มคั้นตั้งอยู่ 
แก้วที่บรรจุน้ำส้มคั้นใบนี้ ป็นแก้วคริสตัลทรงสูงเจียรนัยอย่างดี 
เป็นแก้วที่สั่งทำเป็นพิเศษตรงขอบปากแก้ว 
มีส้มกลีบหนึ่งที่ถูกแกะสลักเป็น รูปนกตัวหนึ่งเกาะ(เสียบ)อยู่ที่ปากแก้วนั้น 
หลอดที่ใช้เป็นหลอดแก้วใส บนถาดใบนั้นที่มาพร้อมแก้วคริสตัล 
มีสลิปบัตรสมาชิกคลับเฮาซ์แนบมาด้วย ... 300 บาท 
... ก่อนที่หญิงผู้นั้นจะจดปากกาเซ็นลงไป 
ส้มผลที่เก้า 
อยู่กับโรงแรมแห่งหนึ่งย่านริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา 
และเช่นเดียวกันส้มผลนี้ไว้ถูกทำเป็นน้ำส้มคั้ เหมือนกัน ถูกปรุงแต่งโดยบาร์เทนเดอร์มือหนึ่ง 
น้ำส้มคั้นที่ได้นั้นถูกปรุงแต่ง และเก็บรักษาไว้ในตู้แช่อย่างดี 
ค่ำคืนนี้ ห้องอาหารชั้น Sky Top มีโอกาสต้อนรับหนุ่มสาวชาวต่างประเทศคู่หนึ่ง 
ที่เลือกสถานที่แห่งนี้เป็นที่ดินเนอร์ เนื่องในโอกาสฉลองสมรส และเลือกเมืองไทยเป็นที่ฮันนีมูน 
เมื่อหาที่นั่งในห้องอาหารแห่งนี้ได้แล้ว ณ มุมมองตรงนั้น 
สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเกาะรัตนโกสินทร์อย่างชัดเจน 
ตลอดจนสายน้ำที่ทอดยาวของลำน้ำเจ้าพระยา เมื่อทอดสายตามองยาวออกไป 
จะมองเห็นสะพานแขวนที่ถูกประดับประดาไปด้วยแสงไฟอย่างสวยงาม 
หลังจากพักผ่อนอิริยาบทสักพักหนึ่งแล้ว ฝ่ายหญิงจึงกล่าวกับบริกรว่า 
... " Orangeade " ... 
และฝ่ายชายว่า ... " American Expresso " ... 
สักพักบริกรที่อยู่ในชุดไทยสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นท่านนั้นกลับมา 
พร้อมกับกาแฟร้อน และน้ำส้มคั้นแก้วหนึ่ง 
แก้วนั้นเป็นแก้วคริสตัลอย่างดี ตรงฐานแก้ว และขอบปากแก้วเคลือบด้วยทอง 18 เค 
ถัดจากฐานรองแก้วตรงขอบที่เคลือบทองขึ้นมา 
และถัดจากขอบที่เคลือบทองที่ปากแก้วลงมาถูกเจียรนัยตกแต่งอย่างดี 
เมื่อแสงไฟตกกระทบถูกแก้วเจียรนัยใบนี้จะเป็นประกายแวววับ 
ยิ่งภายในใช้บรรจุน้ำส้มคั้นด้วยแล้วยิ่งทำให้โดดเด่นยิ่งขึ้น 
ตรงกลางของแก้วใบนี้ มีตราสัญลักษณ์ของโรงแรมแห่งนี้ติดอยู่ 
เป็นเคลือบทอง 18 เค เช่นเดียวกัน หลอดที่ใช้เป็นหลอดแก้วใส 
ตรงปลายได้ขดเป็นเกลียว ตรงขอบปากแก้วมีดอกกล้วยไม้ที่มีชื่อว่า " ช้างเผือก " เสียบอยู่ 
เมื่อแสงไฟที่เป็นหลอด Black Light ส่องมากระทบกับ " ช้างเผือก
บริกรโค้งคำนับก่อนที่จะเสริฟ และโค้งคำนับเมื่อเสริฟเสร็จแล้ว 
หลังจากที่หนุ่มสาวคู่นี้ดื่มด่ำกับบรรยากาศในค่ำคืนนี้พอสมควรแล้ว 
ฝ่ายชายจึงกล่าวกับบริกรขึ้นว่า ... 
" Cash Please " บริกรโค้งคำนับ ก่อนที่จะเดินไปที่แคชเชียร์ 
Ticket ที่ออกมา ... Orangeade 500 Baht ... 

ส้มเหมือนกัน ราคาโดยเฉลี่ยแล้วผลละ 5 บาทเหมือนกัน 
อาจจะเป็นพันธุ์เดียวกัน ต้นเดียวกัน อยู่กิ่งก้านเดียวกัน หรือ อาจจะอยู่ช่อเดียวกันด้วยซ้ำไป 
แต่ทำไมมูลค่าของส้มถึงต่างกันมากมาย หรือว่าเป็นเพราะเวลาและสถานที่ต่างกัน 

... ช่วงเวลา สถานการณ์ และสถานที่ที่ต่างกันนั่นแหละ 
เป็นตัวกำหนดมูลค่าของส้ม และ ... ของตัวคุณเอง !!!! 
บ่อยครั้งที่เราเคยท้อแท้กับงาน การตกงาน คนรอบข้าง ครอบครัว 
หรือแม้กระทั่ง กับ ตัวเราเอง แต่อยากจะบอกว่า ... ขอให้อดทนเพราะช่วงเวลานี้ ... มันไม่ใช่ของเรา 
ส้มนั้นถูกคนเป็นผู้กำหนดจนทำให้มีมูลค่าแบบนั้น 
แล้วทำไมเราไม่กำหนดมูลค่าของตัวเราขึ้นมาบ้างหละ 
ณ วันนี้เราอาจจะมีมูลค่าไม่ถึงครึ่งของส้มที่ขอทานกินแล้วโยนทิ้งไป 
แต่เชื่อแน่ว่า หากเราได้ตัดสินใจแล้วว่า ทางเดินเส้นนี้เราได้ตัดสินใจเลือกที่จะเดินแล้ว 
จงตั้งมั่นและก้าวต่อไป อดทนเพื่อรอเวลาของเรา 
ไม่แน่นะว่า มูลค่าของเราอาจจะมากมายเกินกว่าที่เราจะคาดคิดก็เป็นไป 

Credit : หมอปิย์ ณ ปูนทุ่งสง